Outstanding Investor Relations Awards 2017 & 2020
SET Symbol | RS |
Last Done | 12.70 THB |
Change | -0.20 |
% Change | -1.55% |
Volume | 1,848,309 |
Day's Range | 12.70 - 13.00 |
52 Weeks' Range | 12.70 - 15.50 |
Updated | 29 Mar 2024 12:29 |
IR Sharing
"วิตามินซี กินทั้งที ต้องได้ทั้งสุขภาพและความงาม"
ผัก ผลไม้ เป็นหนึ่งในกลุ่มประเภทอาหารที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในวงกว้างว่า เป็นกลุ่มอาหารที่ช่วยทำให้คนเรามีสุขภาพดีได้หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม หลากหลาย เพราะนอกจากผัก และผลไม้ จะเป็นแหล่งรวมของสารอาหารจำพวกวิตามิน เกลือแร่และเส้นใยอาหารแล้ว ยังมีสารพฤกษเคมีหรือที่เรียกว่าไฟโตเคมิคอลส์ ที่ช่วยชะลอความเสื่อมและป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังได้หลายโรค โดยเฉพาะโรคที่มีผลมาจากอิทธิพลของอนุมูลอิสระ ที่ถือว่าเป็นศัตรูร้ายของปัญหาสุขภาพรวมถึงผิวพรรณที่เป็นเสมือนจอฉายขนาดใหญ่ที่ทำให้เห็นริ้วรอยของความแก่และความเสื่อมก่อนสิ่งอื่นๆ
และอะไรที่จะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ที่ส่วนหนึ่งถูกผลิตขึ้นภายในร่างกายและอีกส่วนหนึ่งได้มาจากสิ่งแวดล้อม เช่น สารจากมลพิษ ควันบุหรี่ แสงแดด ความเครียด รวมถึงช่วยชะลอความเสื่อม ไม่ให้ปรากฏทางผิวพรรณได้
มีผลการศึกษาวิจัยจำนวนมากที่พบว่า แม้ร่างกายจะมีระบบในการขจัดอนุมูลอิสระส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็จำเป็นที่จะต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหาร เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน รวมถึง สารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ซีลีเนียม ที่จะเข้ามามีบทบาทช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ป้องกันเซลล์จากการถูกอนุมูลอิสระทำลายและอาจป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ มากมายที่เกิดจากอิทธิพลของอนุมูลอิสระ ซึ่งเข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆ ทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อมก่อนวัย ที่อาจจะปรากฏให้เห็นทั้งทางริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิว การเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด รวมทั้งมะเร็งบางชนิดด้วย
5 ผลไม้ “วิตามินซี” สูง ยิ่งกิน ยิ่งสวย
5. สตรอว์เบอร์รี
ผลไม้โปรดของสุภาพสตรีทั้งหลายที่ไม่ได้มีดีเพียงรสชาติ แต่เปี่ยมทั้งไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน โดยมีวิตามินซีสูงถึง 58 มิลลิกรัมต่อสตรอว์เบอร์รีสด 100 กรัม
4. กีวี่
เจ้าก้อนขนเนื้อเขียวแสนอร่อยนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดโปรดของใครๆ เพราะ กินเนื้อสดๆ ก็ดี ปั่นเป็นน้ำผลไม้ก็ได้อร่อยด้วย แถมวิตามินซีก็สูงถึง 105 มิลลิกรัมต่อเนื้อ 100 กรัมเลย
3. ฝรั่ง
เป็นผลไม้ที่แทบจะไม่เปรี้ยวเลย แต่มีวิตามินซีสูงถึง 160 มิลลิกรัมต่อเนื้อ 100 กรัม ซึ่งถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินผลไม้เปรี้ยวๆ แล้วต้องการวิตามินซี นอกจากนี้ยังหาซื้อง่ายในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย
2. มะขามป้อม
ต่อกันที่ผลไม้ที่ชื่อทรยศรูปร่าง (ชื่อมะขามไหงหน้าตาเหมือนมะนาว?) เจ้าลูกกลมๆ นี้มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 276 มิลลิกรัมต่อผลสด 100 กรัม ถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูงเลยทีเดียว
และมาถึงอันดับ 1 ชื่ออาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าได้รู้จักแล้วจะหลงรัก นั่นคือ..... “คามู คามู”
ผลไม้ชื่อแปลกหน้าตาคล้ายเชอร์รีนี้มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ จึงอาจหาซื้อลำบากอยู่สักหน่อย แต่เชื่อเถอะค่ะว่าคุ้มแน่นอน
“คามู คามู สุดยอดวิตามินซีระดับโลก”
คามู คามู เป็นผลไม้ที่มีแหล่งกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ลักษณะของผลสุกจะมีสีม่วงแดงเข้ม รสเปรี้ยว นักวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากทั่วโลกให้ความสนใจกับผลไม้ชนิดนี้มากเป็นพิเศษ หลังพบว่า นอกจากคามูคามูจะให้กรดอะมิโน วิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็น เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส มีสารในกลุ่มโพลีฟีนอลและแคโรทีนอยด์ จำพวก ลูทีน ซีแซนทีน และเบต้าแคโรทีนสูงแล้ว
ยังมีผลการวิจัยยืนยันว่า ผลไม้ชนิดนี้ให้วิตามินซีสูงที่สุด ถึง 2,400-3,000 มิลลิกรัมต่อเนื้อผลสด 100 กรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณของวิตามินซีในส้มถึงประมาณ 50 เท่า และมากกว่าประมาณ 100 เท่าของปริมาณวิตามินซีในมะนาว และเมื่อเทียบกับอะเซโรลา เชอร์รี่ ผลไม้ที่รู้จักกันดีว่าให้วิตามินซีสูง ก็พบว่ามีวิตามินซีน้อยกว่าคามูคามู ถึง 1,043-1,643 มิลลิกรัมต่อเนื้อผลสด 100 กรัม
ส่วนผลในเชิงสุขภาพ มีการศึกษาพบว่า คามู คามู มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ โดยศึกษาในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 100 คน สุ่มให้ดื่มน้ำผลคามู คามู 100% เทียบกับการรับประทานวิตามินซีอัดเม็ด ซึ่งให้ปริมาณวิตามินซีเท่ากันคือ 1,050 มก. ต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน พบว่า กลุ่มที่ดื่มน้ำผลคามู คามู มีระดับตัวชี้วัดของภาวะการเกิดออกซิเดชั่นและภาวะการอักเสบลดลง ในขณะที่กลุ่มซึ่งได้รับวิตามินซีอัดเม็ดไม่ให้ผลดังกล่าว
นอกเหนือจากวิตามินซีแล้ว คามู คามู ยังให้สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น แอนโธไซยานิน แคโรทีนอยด์ ที่ให้ประโยชน์ด้านสุขภาพ รวมถึงโพแทสเซียมที่ช่วยในการดูดซึมวิตามินซีให้ดีขึ้นอีกด้วย
มีการศึกษาในห้องทดลองถึงผลในการต้านอนุมูลอิสระของผลไม้พื้นเมืองบราซิล จำนวน 16 ชนิด พบว่า ผลคามู คามู ให้ประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงสุด มีปริมาณของสารกลุ่มฟีนอลลิกและเอลลาจิกแอซิดสูง ที่นอกจากจะช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้วยังช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนในชั้นโครงสร้างผิวและปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย ช่วยต่อต้านริ้วรอยช่วยให้ผิวพรรณสวยใส
จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจะมีการต่อยอดผลการวิจัยโดยการนำผลไม้คามู คามู มาสกัดเป็นเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมไปถึงใช้ในเครื่องสำอางบำรุงผิว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกทางหนึ่งในท่ามกลางกระแสความนิยมรักษาสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด
อาร์เอส เปิด 2 แบรนด์ใหม่ 8 สินค้า กลางปีนี้
แล้ว คามู คามู มาอยู่ส่วนไหน ในผลิตภัณฑ์อะไรของ RS บ้าง ....โปรดติดตามได้ในคอนเทนต์ต่อไป
ที่มา : https://www.facebook.com/kandabeauty.company/photos/a.603959250043819/727633961009680/