RS ซื้อธุรกิจขายตรงทั้งหมดของยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ พร้อมจัดตั้งบริษัท RS Connect เพื่อขยาย Ecosytem ของอาร์เอส กรุ๊ป เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจคอมเมิร์ซ และสร้าง Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจ พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัว Popcoin สมาร์ทมาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม เพื่อเชื่อมการทำงานแบบไร้รอยต่อระหว่างธุรกิจคอมเมิร์ซ และบันเทิง
Outstanding Investor Relations Awards 2017 & 2020
ชื่อย่อหุ้น | RS |
ราคาล่าสุด | 12.70 THB |
เปลี่ยนแปลง | -0.20 |
% เปลี่ยนแปลง | -1.55% |
ปริมาณซื้อขาย | 432,682 |
ช่วงราคาระหว่างวัน | 12.70 - 12.90 |
ช่วงราคาใน 52 สัปดาห์ | 12.00 - 15.20 |
ปรับปรุงเมื่อ | 26 เม.ย. 2567 16:36 |
ย่างก้าวของอาร์เอส
เพื่อขยายอีโคซิสเต็มอย่างไม่สิ้นสุดและสร้าง New S-Curve ให้แก่ อาร์เอส กรุ๊ป การร่วมทุนและการทำกิจการร่วมค้าเป็นหัวใจหลักของการทำงาน โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนใน ธุรกิจใหม่ๆ ที่มีการเติบโตสูง ผ่านทาง RSX ขณะที่ ไลฟ์สตาร์ นำ 2 แบรนด์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ well u และ CAMU C เข้าสู่ตลาดแมส เพื่อขยายศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของบริษัท
ช่วงเวลาสำคัญของอาร์เอส ประกาศปรับแบรนด์ใหม่สู่การเป็น “อาร์เอส กรุ๊ป” ยุคแห่ง Entertainmerce บนสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ทางด้านแบรนด์ “ไลฟ์สตาร์” ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ช่อง 8 คูลลิซึ่ม และธุรกิจเพลง ยังเป็นผู้นำตลาดและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์เติบโต
ธุรกิจคอมเมิร์ซของ อาร์เอส เติบโตอย่างต่อเนื่องและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงรีแบรนด์ “ช้อป 1781” เป็น “อาร์เอส มอลล์” และได้ทำการเปลี่ยนหมวดธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์จาก “สื่อและสิ่งพิมพ์” เป็น “พาณิชย์”
เปลี่ยนถ่ายเข้าสู่การเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ หรือ MPC อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการบริหารสื่อในมืออย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีการขยายตัวทั้งในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายและประเภทของผลิตภัณฑ์เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค
อีกปีแห่งความสำเร็จ อาร์เอส ขยายธุรกิจคอมเมิร์ซจนมีรายได้เติบโตจากปีก่อน ถึง 600% พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้โมเดลธุรกิจที่แตกต่างซึ่งเป็นการดึงศักยภาพของสื่อและธุรกิจบันเทิงในเครือออกมาอย่างเต็มที่ สามารถเปลี่ยนผู้ชมและผู้ฟังเป็นผู้ซื้อได้ นอกจากนี้ การเพิ่มฐานข้อมูลลูกค้า การใช้เครื่องมือเพื่อวิเคราะห์ และการขยายทีมเทเลมาร์เก็ตติ้งเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด สามารถสร้างปรากฎการณ์แห่งความสำเร็จให้แก่บริษัทฯ
อาร์เอส เปิดตัวบริษัทใหม่ "ไลฟ์สตาร์ (Lifestar)" อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัว 4 แบรนด์หลัก "มาจีค กราวีธัส รีไวว์ และ โนเบิลไวท์" เพื่อขยายตัวเข้าสู่ธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health and Beauty) เนื่องจากเห็นโอกาสจากธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีแม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ก้าวเข้าสู่ธุรกิจทีวีดิจิทัลเต็มรูปแบบ ภายใต้แบรนด์ “ช่อง 8” และในส่วนของ “ช่อง 2” และ “สบายดีทีวี” ยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจทีวีดาวเทียม ทั้งยังได้ปรับโฉมคลื่นวิทยุ คูลเซลเซียส 91.5 เป็น COOL Fahrenheit 93 คลื่นเพลงฟังสบายอันดับ 1 ที่มีผู้ติดตามอย่างเหนียวแน่น และในขณะเดียวกันก็เริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม
เป็นผู้ผลิตสื่อครบวงจร พร้อมทั้งผลิตสื่อบันเทิงเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจวิทยุ ได้รีแบรนด์ ‘สกายไฮ เน็ตเวิร์ค’ เป็น ‘คูลลิซึ่ม’ และเปิดคลื่นวิทยุใหม่ คูลเซลเซียส 91.5
รุกเข้าสู่ธุรกิจดาวเทียม โดยเปิดตัว YOU Channel และ สบายดีทีวี จากนั้นในปี 2554 ได้ขยายตัวในธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมเพิ่มอีก 2 ช่อง ได้แก่ ช่อง 8 และ Yaak TV
เปลี่ยนโลโก้บริษัทเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี รวมทั้งก่อตั้งบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดแคสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนต์ จำกัด และ บริษัท อาร์เอส ไอดรีม จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจทางด้านกีฬาและโชว์บิซ รวมทั้งลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2 สมัย คือปี 2553 และ 2557 และฟุตบอลยูโรในปี 2551
เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในนาม ‘RS’ และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)”
จัดทัพธุรกิจสื่อวิทยุใหม่ในนาม บริษัท สกาย-ไฮเน็ตเวิร์ค จำกัด และเข้าทำสื่อวิทยุอย่างเป็นทางการ โดยรับหน้าที่ผลิตรายการและบริหารคลื่นวิทยุในเครือ ได้แก่ 98 Cool FM และ 88.5 Z POP We Like คลื่นซ่าของคนรุ่น “Z”
ก้าวเข้าสู่สื่อโทรทัศน์อย่างเต็มตัวด้วยการเปิดบริษัท ชาโดว์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ในช่วงต้นปี และบริษัท เมจิคแอ็ดเวอร์เทนเมนท์ จำกัด ในช่วงกลางปี ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์อันโดดเด่น โดยผลิตทั้งรายการเกมส์โชว์, รายการวาไรตี้, มิวสิควีดีโอ และละครทีวี
ก้าวเข้าสู่ธุรกิจภาพยนตร์ในนาม “อาร์.เอส.ฟิล์ม” จากเรื่อง “โลกทั้งใบให้นายคนเดียว” และนับเป็นภาพยนตร์เปิดตัวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งด้านรายได้และรางวัล และยังเป็นพื้นฐานความสำเร็จของเรื่องต่อๆ มา
ย้ายสำนักงานมายังอาคารเชษฐโชติศักดิ์ ซอยลาดพร้าว 15 และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น 1992 จำกัด” พร้อมทั้งประกาศจุดยืนการเป็นบริษัทบันเทิงแบบครบวงจร
ก้าวเข้าสู่ธุรกิจเพลงวัยรุ่น ภายใต้บริษัท อาร์.เอส.ซาวด์ จำกัด โดยมีศิลปินวงแรกในสังกัดคือ วงอินทนิน ตามด้วย คีรีบูน, ฟรุตตี้, ซิกเซ้นต์, บรั่นดี และเรนโบว์
สองพี่น้อง คุณเกรียงไกร และ คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ เริ่มก่อตั้ง RS และ Rose Sound จากธุรกิจตู้เพลงและค่ายเพลง ด้วยเงินลงทุน 50,000 บาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นปฐมบทของอาณาจักร "อาร์เอส" อันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน